ชื่อสมาชิก :
รหัสผ่าน :
การลดภาวะโลกร้อนกับตู้เย็นนั้น จะเกี่ยวข้องกันอย่างไรเรามาดูกันนะครับ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นในปัจจุบัน เพราะว่ามองไปบ้านไหนถ้าไม่มีตู้เย็นก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ว่าตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ที่กินไฟฟ้าอยู่มากเลยทีเดียว เพราะว่าต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา โดยเฉพาะตู้เย็นเก่าๆก็จะกินไฟมากกว่า แถมสารทำความเย็นในตู้เย็นนั้นก็ยังทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
แต่ถ้าจะให้เลิกใช้ตู้เย็นไปเลยก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะดูว่าตู้เย็นแบบไหนที่เหมาะกับบ้านเรา และเราควรใช้งานตู้เย็นแบบไหนถึงจะเป็นผลดีต่อโลกมากที่สุด
การตั้งตู้เย็น เราควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากฝาผนังซักประมาณ 15 เซนติเมตร ถ้าเราตั้งใกล้ผนังมากเกินไปจะทำให้ตู้เย็นระบายความร้อนออกได้ยาก ลองเอามือไปแตะๆผนังบ้านดู ถ้าตั้งใกล้ๆมันจะร้อน
แช่ของเท่าที่จำเป็น ยิ่งเราแช่ของในตู้เย็นมากเท่าไหร่ ตู้เย็นก็จะทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาไปแช่ ของที่แช่ไว้นานๆแล้วก็เอาออกมากินซะ ตู้เย็นจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
อย่าแช่ของที่ยังร้อนๆอยู่ เราไม่ควรเอาของที่ยังร้อนอยู่เข้าไปแช่ในตู้เย็นทันที เพราะว่าจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักมาก ควรตั้งทิ้งไว้ข้างนอกก่อนให้มันหายร้อน แล้วก็ค่อยนำไปใส่ในตู้เย็น
ละลายน้ำแข็งเป็นประจำ น้ำแข็งที่เกาะอยู่ในช่องแช่แข็งนั้น บางคนอาจจะนึกว่ามันดี แต่จริงๆแล้วมันทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นเราควรกดปุ่มละลายน้ำแข็งอยู่เป็นประจำ ไม่ให้มันเกาะหนาอยู่อย่างนั้น
เลือกตู้เย็นที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ควรเลือกตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่เกินไป เพราะว่ามันจะกินไฟมากกว่าโดยไม่จำเป็น ควรจะเลือกขนาดให้เหมาะกับการใช้งานของเรา เป็นการใช้พลังงานโดยคุ้มค่า ช่วยลดภาวะโลกร้อน
ตู้เย็นเก่าๆควรเปลี่ยน เพราะว่าตู้เย็นเก่าๆเกิน 10 ปีนั้นกินไฟมากกว่า แถมยังใช้สาร CFCs ซึ่งทำลายชั้นโอโซน และทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกตั้งหาก ตู้เย็นใหม่ๆจะถูกพัฒนาและทำให้กินไฟน้อยกว่า ซึ่งในระยะยาวจะคุ้มกว่าแน่นอน
ทีนี้เรามาดูเรื่องสารทำความเย็นกัน ใครกำลังจะซื้อตู้เย็นใหม่หรือกำลังคิดจะซื้อก็น่าจะอ่านไว้ เวลาไปเลือกจะได้เลือกถูกว่าแบบไหนช่วยลดภาวะโลกร้อนมากที่สุด
ตู้เย็นสมัยก่อนๆนั้นใช้สารซีเอฟซี CFCs (Chloroflurocarbons) ในการทำความเย็น ผมคิดว่าหลายคนคงเคยได้ยิน ตู้เย็นที่ใช้สารทำความเย็นอันนี้ไม่ควรใช้ เพราะว่ามันทำลายโอโซน และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ส่วนตู้เย็นที่ใช้สารเอชเอฟซี HFCs (Hydrofluorocarbons) ในการทำความเย็นก็จะดีหน่อย ไม่ทำลายชั้นโอโซน แต่สร้างก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 1,200 เท่าเลยทีเดียว
ตู้เย็นที่ใช้สารเอชซี HCs (Hydrocarbons) อันนี้ไม่ทำลายชั้นโอโซน สร้างก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ 3-4 เท่าตัว เท่านั้น เพราะฉะนั้นเวลาเลือกซื้อตู้เย็นก็ควรดูอันที่ใช้สารเอชซีในการทำความเย็น และที่สำคัญก็ต้องเป็นเบอร์ 5 ด้วย เพื่อที่จะได้ประหยัดไฟ
ทีนี้เพื่อนๆก็ได้รู้แล้วว่าเวลาเลือกซื้อตู้เย็นควรจะดูอะไรบ้าง แค่เลือกซื้อตู้เย็นก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ แล้วต่อไปผมจะนำเรื่องราวแบบนี้มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันอีกนะครับ ถ้ามีอะไรก็คอมเม้นต์ทักทายกันได้นะครับ ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ ที่มา : http://www.greentheearth.info
การเลือกซื้อตู้เย็นตู้เย็นเพื่อใช้ประจำบ้านสักตู้ไม่ใช่เรื่องที่ยากครับ เพียงเรารู้จำนวนคนในบ้านกับปริมาณการกินในแต่ละวัน การหาอาหาร (ซื้อ) มาเก็บตุนไว้เพื่อรอประกอบอาหาร เราก็พอจะคิดในใจได้ว่าจะต้องซื้อตู้เย็นใหญ่หรือตู้เย็นเล็กจึงจะเหมาะกับครอบครัวตัวเอง
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการพลังงานหล่อเลี้ยงตลอดเวลา เราก็ควรจะคำนึงถึงความสามารถในการให้ความเย็นตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ต้องช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เราต้องจ่ายทุกเดือนด้วยถูกไหมครับ? และจุดสำคัญที่ควรจะโฟกัสในเรื่องของการเลือกตู้เย็นที่ประหยัดไฟที่สุด ก็มีหลักการที่ทุกคนควรจะคำนึงถึง ดังนี้ครับ
หลายคนมีความเชื่อว่าถ้าตู้เย็นมีของเต็มตู้นั้น จะกินไฟมากกว่าตู้เย็นที่ไม่ค่อยมีของ แต่ความเป็นจริงกลับไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพราะตู้เย็นที่มีของเต็มพอดีๆ ไม่อัดแน่นจนหยิบไม่ได้ เวลาเราเปิดตู้เย็นอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า เนื่องจากมีสิ่งของอยู่ภายในความเย็นจึงไหลออกมาภายนอกได้ยากกว่า แต่ถ้าเป็นตู้เย็นที่โล่งจนเกินไป ความเย็นที่ควรจะหมุนเวียนภายในก็จะไม่ถูกอะไรขวางกั้นเอาไว้ ทำให้เวลาเปิดประตูตู้เย็นหนึ่งที ความเย็นก็จะระเหยออกไปข้างนอกจนหมด ซึ่งจะส่งผลให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อตู้เย็น ขั้นแรก จะต้องคำนึงว่าเราสามารถใช้งานตู้เย็นนั้นๆ ได้เต็มที่แบบพอดีๆ กับครอบครัวของเราหรือเปล่าครับ นอกจากนั้น หากเป็นตู้เย็นที่มีระบบช่วยปรับการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ให้สามารถปรับกำลังการทำความเย็นตามระดับความชื้นและรูปแบบการใช้งานช่องแช่ต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ดับเครื่องอย่างปุบปับเมื่อไฟดับหรือไฟกระชาก ก็จะทำให้ตู้เย็นเครื่องนั้นสามารถรักษาระดับอุณหภูมิได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้นครับ
ตู้เย็นในปัจจุบันได้ถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วครับ อย่างระบบกดน้ำเย็นให้ดื่มจากนอกตู้เย็น ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากของการใช้งานตู้เย็นมากขึ้น เพราะเราไม่จำเป็นต้องเปิดตู้เย็นหาขวดน้ำที่แช่ไว้ หรือตู้เย็นบางรุ่น จะมีฟีเจอร์ที่สามารถแบ่งโซนควบคุมอุณหภูมิในตู้ได้อย่างเร่งด่วน ทำให้เราสามารถละลายน้ำแข็ง หรือแช่เครื่องดื่มที่ต้องการให้เย็นโดยเร็วได้สะดวกขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วยเพราะไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิทั้งตัวเครื่อง
สิ่งที่ควรพิจารณาข้อสำคัญในการเลือกตู้เย็น ก็คือความแข็งแรงคงทนและการรับประกัน เพราะตู้เย็นจัดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่ซื้อครั้งหนึ่งก็ต้องใช้กันเป็น 10 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นความคงทน จึงเป็นข้อควรพิจารณาว่าตู้เย็นนี้มีการรับประกับชิ้นส่วนต่างๆ รับประกันในตัวทำความเย็นนานเพียงใด นั่นคือความอุ่นใจระยะยาวที่คุณสามารถเลือกได้ด้วยตนเอง ดังนั้นควรเลือกตู้เย็นที่มีระยะเวลาการรับประกันที่ยาวนานครอบคลุมระยะเวลาตามที่เราวางแผนเพื่อใช้งานได้จะดีมากครับ ที่มา : www.samsung.com
เชิญเยี่ยมชมสินค้าของเรา คลิกลิงค์นี้เพื่อเปรียบเทียบสเปค รุ่น ราคา ที่มา : www.priceza.com หรือเช็คที่เวป yopi เชิญเยี่ยมชมสินค้าของเรา